Näytä edellinen aihe :: Näytä seuraava aihe |
Kirjoittaja |
Viesti |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 20.11.2005 17:26 Viestin aihe: หน้าเด้งสวย |
|
|
สวัสดีค๊ะพี่ๆๆแพนด้ามีสูตรหน้าเด้งและช่วยเรื่องของรอยตีนกาด้วยค๊ะ
แพนด้าคิดว่าคงมีประโยชน์กับทุกคนนะค๊ะ
น้ำผึ้งกับมะขามเปียก
นำมาผสมให้เข้ากันแล้วแต่จะใช้นะค๊ะเพราะทำแล้วใช้ได้หลายครั้ง เพียงแช่ไว้ในตู้เย็นค๊ะ
เมื่อผสมเข้ากันดีแล้วก็นำมาทาใบหน้าของเรา 10-15นาทีแล้วล้างออก
ทำได้ทุกวันค๊ะ
แค่นี้หน้าก็เด้งสวยไม่ต้องอาศัยครีมหน้าเด้งแล้วล๊ะค๊ะ
ลองทำดูนะค๊ะ  _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 22.11.2005 15:12 Viestin aihe: |
|
|
คนที่ขาย ชาเขียว ชาอูหลง เตรียมเฮได้แล้ว เพราะมีข้อมูลการศึกษาล่าสุดที่ทำในประทเศไต้หวันพบว่าคนที่ดื่มทั้ง ชาเขียว และ ชาอูหลง มีแน้วโน้มมี ความดันโลหิต ลดลงเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่ม
อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า โรคความดันโลหิตสูง เป็นอาการเริ่มต้นที่จะนำไปสู่โรคภัยไข้เจ็บมากมาย เช่น โรคหัวใจ อาการเส้นเลือดแตกในสมอง แต่จากการศึกษาที่ทำโดยผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติ Cheng Kung ในเมือง Tainan ประเทศไต้หวัน พบว่าคนที่ดื่ม ชาเขียว หรือ ชาอูหลง จะมีแน้วโน้มมีความดันโลหิตที่ลดต่ำกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม
ได้มีการค้นพบว่าสารต่างๆ มากมายกว่า 4,000 ชนิดที่มีอยู่ในน้ำ ชา รวมทั้งสารฟลาโวนอยด์จะช่วยป้องกันการเกิดหัวใจล้มเหลว อาการเส้นเลือดแตกในสมอง และอาการไตวาย ทั้งนี้การศึกษานี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร The Archives of Internal Medicine โดย Yi-Ching Yang ซึ่งวารสารดังกล่าวเป็นวารสารที่มีชื่อเสียงที่แพทย์ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ
การศึกษานี้ได้ทำการทดลองในอาสาสมัครกว่า 1,500 คนที่ไม่เคยมีอาการของโรคความดันโลหิตสูง ให้ดื่มน้ำ ชา 120-599 ซีซีต่อวัน (4-20 ออนซ์ต่อวัน) เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี พบว่าสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดอาการ โรคความดันโลหิตสูง ได้ถึง 46% เมื่อเทียวกับคนที่ไม่ได้ดื่ม ชา
นอกจากนี้การศึกษานี้ยังระบุอีกว่า หากดื่ม ชา มากกว่า 600 ซีซีต่อวัน ก็จะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดอาการ โรคความดันโลหิตสูง ได้ถึง 65% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่ม ชา
ในจำนวนผู้เข้าร่วมการทดลองพบว่า 40% ของผู้ร่วมการทดลองเป็นที่ดื่ม ชา เป็นประจำ และในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นชายที่อายุยังไม่มาก ส่วนใหญ่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และรับประทานอาหารพวกพืชผักน้อย  _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 22.11.2005 15:15 Viestin aihe: |
|
|
►เส้นใยอาหาร (Fiber) คืออะไร
►ไฟเบอร์ในอาหารทั่วไป
►ไฟเบอร์ในผัก
►ไฟเบอร์ในผลไม้
เส้นใยอาหาร (Fiber) คืออะไร
ไฟเบอร์ หรือ เส้นใยอาหาร ส่วนใหญ่เราจะได้จากส่วนโครงสร้างของพืช มีอีกชื่อหนึ่งว่าเซลลูโลส ไฟเบอร์ แบ่งได้ 2 ชนิดคือ ไฟเบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้ เวลาละลายน้ำจะเห็นเป็นลักษณะเมือกๆ พบมากในผลไม้ ถั่ว ข้าวโอ๊ต เป็นต้น อีกชนิดคือ ไฟเบอร์ ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ จะพบมากใน ข้าวซ้อมมือ รำข้าว ผักต่างๆ
มีการรายงานว่าปกติเฉลี่ยแล้วพวกเรารับประทาน ไฟเบอร์ เพียง 10 กรัมต่อวันเท่านั้น ซึ่งหากว่าเราสามารถรับประทาน 25-40 กรัมต่อวันจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้ใหญ่ และความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารได้งั้นเรามาลองดูว่าอาหารแต่ละชนิดมีปริมาณ ไฟเบอร์ อยู่เท่าไร
ไฟเบอร์ในอาหารทั่วไป
นมและผลิตภัณฑ์จากนม มี ไฟเบอร์ อยู่ 0 กรัม
เนื้อสัตว์ มี ไฟเบอร์ อยู่ 0 กรัม
ถั่วอบ (1/2 ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 11 กรัม
ข้าวโพดคั่ว (1ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 0.4 กรัม
ไฟเบอร์ในผัก
บร็อคคอรี่ (1/2ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 3.2 กรัม
แครรอตต้ม (1/2ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 2.3 กรัม
แครรอตสด (1ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 2.3 กรัม
เห็ดสด (1/2ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 0.7 กรัม
ผักขม (1/2ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 5.7 กรัม
มะเขือเทศสด (1ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 2.0 กรัม
ไฟเบอร์ในผลไม้
แอปเปิ้ล(1ผล) มี ไฟเบอร์ อยู่ 3.3 กรัม
กล้วย (1 ลูก) มี ไฟเบอร์ อยู่ 3.2 กรัม
แคนตาลูป (1/4 ลูก) มี ไฟเบอร์ อยู่ 1.6 กรัม
องุ่น (1/2 ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 0.6 กรัม
ส้ม (1 ผล) มี ไฟเบอร์ อยู่ 2.4 กรัม
สับประรด (1/2 ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 0.9 กรัม
สตอเบอรี่ (1/2 ถ้วย) มี ไฟเบอร์ อยู่ 1.7 กรัม _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 22.11.2005 15:19 Viestin aihe: |
|
|
ลองอ่านดูนะค๊ะ
เส้นใยอาหาร (Fiber) คืออะไร
เส้นใยอาหาร คือส่วนของโครงสร้างของพืช เช่น กิ่ง ก้าน เมล็ด เป็นส่วนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้มีอีกชื่อหนึ่งว่าเซลลูโลส ซึ่งมี 2 ชนิดคือ ไฟเบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้ และ ไฟเบอร์ ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ไฟเบอร์ เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงานใดๆ ถึงแม้ว่าโครงสร้างจะเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งก็ตาม เมื่อเรารับประทาน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารที่ไม่ให้พลังงานเข้าไปในร่างกาย มันจะเข้าไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วและอิ่มได้นาน ช่วยลดความอยากอาหารลงไป เราสามารถลดพลังงานที่จะได้รับจากอาหารได้จึงส่งผลให้ลดน้ำหนักได้
แหล่งอาหารที่จะได้รับไฟเบอร์
เราสามารถได้จากพวกธัญพืช เช่น ข้าวซ้อมมือ ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ผลไม้ทั้งผล (ไม่ใช่น้ำผลไม้) ผลส้มแขก เมล็ดแมงลัก
ไฟเบอร์กับการลดความอ้วน
1. ไฟเบอร์ ช่วยให้อาหารเดินทางเร็วขึ้นและมีเวลาอยู่ในระบบทางเดินอาหารสั้นลง จึงช่วยลดการดูดซึม
2. ไฟเบอร์ ไปแย่งพื้นที่ในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลดความอยากอาหารและรับประทานอาหารได้น้อยลง หากใช้ร่วมกับการควบคุมชนิดและปริมาณอาหาร และออกกำลังกายร่วมด้วยจะยิ่งให้ผลดีในการ ลดน้ำหนัก
3. จากหลาย ๆ การทดลองพบว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มี ไฟเบอร์ อย่างน้อย 2 กรัมขึ้นไปช่วยให้น้ำหนักลดลงได้
หากไม่แน่ใจว่าจะสามารถรับประทาน ไฟเบอร์ ได้อย่างเพียงพอ ก็ควรจะรับประทานในรูปของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และในการรับประทาน ไฟเบอร์ ก็ควรที่จะรับประทานน้ำให้มากอย่างเพียงพอในแต่ละวันด้วย
แต่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า ไฟเบอร์ ไม่ใช่ยาระบาย ที่จะช่วยระบายของเสีย ดังนั้นหากท่านต้องการระบายโดยไม่ได้ต้องการคุณประโยชน์อื่นๆ ของ ไฟเบอร์ ก็น่าจะใช้ยาระบายน่าจะเหมาะสมกว่า
ประโยชน์อื่นๆ ของไฟเบอร์
ผลต่อ คลอเลสเทอรอล และ โรคหัวใจ
จากหลายๆการศึกษาวิจัยพบว่า ไฟเบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้เท่านั้นที่สามารถช่วยลดปริมาณ คลอเลสเทอรอล ได้ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะรับประทานแทนยารักษาได้ และยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดเช่นกัน อย่างไรก็ตามไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด โรคหัวใจ
ผลต่อโรค เบาหวาน
นอกจากนี้ยังมีงานวิจับพบอีกว่า ไฟเบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้จะช่วยในด้านการลดระดับน้ำตาลในเลือด จนสามารถช่วยลดการใช้ปริมาณอินซูลินในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด และยังค้นพบอีกว่าคนที่รับประทาน ไฟเบอร์มากๆ จะช่วยลดโอกาสการเป็น เบาหวาน
ผลต่ออาการท้องผูก-มะเร็งลำไส้
การรับประทาน ไฟเบอร์ ชนิดที่ไม่ละลายน้ำ ช่วยให้การเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหารดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายมีการขับถ่ายดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก อีกทั้งยังช่วยลดการเก็บกักของเสียในร่างกาย ลดการหมักหมมของเสียในลำไส้ ลดโอกาสการดูดซับสารพิษจากของเสียเข้าสู่ร่างกาย และที่สำคัญมันช่วยลดโอกาสในการเกิดโรค มะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยเช่นกัน _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
sunshine

Liittynyt: 27 Tou 2005 Viestejä: 466 Paikkakunta: Chonburi
|
Lähetetty: 22.11.2005 17:15 Viestin aihe: |
|
|
พี่ขอยกนิ้วให้น้องแพนด้าคะที่หาสาระดี ๆ มาให้พวกเราได้อัพเดทกันอีกแล้วเนี่ย  _________________ ...ดอกกระดังงาไทยไม่ลนไฟไม่หอม... |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
namoy

Liittynyt: 05 Syy 2005 Viestejä: 147
|
Lähetetty: 24.11.2005 7:23 Viestin aihe: |
|
|
อือ....น้องแพนด้านี้น่ารักจังเลย...
พี่ดำชอบมากเลยน่ะสูตรทำหน้าเด้งเนี๊ยะ....เพราะว่าเห็นหน้าอาจารย์สุดที่รัก สุดสวาทของพี่ดำแล้วทำให้พี่ดำอยาดหน้าเด้งดึง ๆ ขึ้นมาทันทีทันได..
พี่ดำจะลองล่ะ..ได้ผลอย่างไรแล้วจะบอกน่ะค่ะ....
" ความสวยไม่เข้าใครออกใคร " อิอิอิอิ
 |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 25.11.2005 11:10 Viestin aihe: |
|
|
แพนด้าดีใจค๊ะที่พี่ๆๆชอบแล้วแพนด้าจะหาข้อมูลดีๆๆมาลงอีกนะค๊ะ  _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 25.11.2005 11:17 Viestin aihe: |
|
|
namoy kirjoitti: | อือ....น้องแพนด้านี้น่ารักจังเลย...
พี่ดำชอบมากเลยน่ะสูตรทำหน้าเด้งเนี๊ยะ....เพราะว่าเห็นหน้าอาจารย์สุดที่รัก สุดสวาทของพี่ดำแล้วทำให้พี่ดำอยาดหน้าเด้งดึง ๆ ขึ้นมาทันทีทันได..
พี่ดำจะลองล่ะ..ได้ผลอย่างไรแล้วจะบอกน่ะค่ะ....
" ความสวยไม่เข้าใครออกใคร " อิอิอิอิ
 |
สวัสดีค๊ะพี่ดำ
แพนด้าอิจฉาจังเลยค๊ะ เสียดายที่แพนด้าไม่ได้ไปด้วย ไม่งั้นสนุกแน่โมโหค๊ะ  _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
panda

Liittynyt: 30 Tou 2005 Viestejä: 353 Paikkakunta: Kalasin
|
Lähetetty: 28.11.2005 16:53 Viestin aihe: |
|
|
ขิงช่วยได้ .. สำหรับคนแพ้ท้อง
Mummy Guide
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านคงหนีไม่พ้นอาการแพ้ท้อง ในช่วง 3 เดือนแรกอย่างแน่นอน ตื่นเช้าขึ้นมาก็วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน บางคนแพ้มากก็มีอาการแทบทั้งวัน นักวิจัยจึงได้พยายามหาวิธีช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวโดยใช้ขิง ซึ่งเป็นสมุนไพรโบราณ
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยฟลอริดา อเมริกา ได้ศึกษาจากผู้หญิงท้องอายุตั้งแต่ 24-37 ปี ซึ่งกำลังประสบปัญหาแพ้ท้องในช่วง 3 เดือนแรก โดยให้ดื่มน้ำขิงผสมน้ำเชื่อม ซึ่งได้ข้อสรุปว่าการกินขิงวันละหนึ่งกรัมไม่ว่าจะเป็นน้ำขิงหรือขิงสกัดในรูปแคปซูลก็ตาม จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องลงได้
ขิงซึ่งเป็นสมุนไพรแถบทวีปเอเชีย รวมทั้งมีในประเทศไทยด้วย ซึ่งคนสมัยโบราณก็ได้นำขิงมาใช้ประโยชน์มากมาย ทั้งทำเป็นน้ำขิงดื่มช่วยขับลม ย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ปัจจุบันมีการสกัดเป็นผงใช้ชงน้ำร้อนดื่ม ทำให้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ บ้านเรายังใช้ขิงมาประกอบอาหารทั้งคาวหวาน ขิงสดนำมาใส่ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผสมในเครื่องดื่มคอกเทลต่างๆ หรือจะนำขิงสดไปดอง ทำให้เปลี่ยนเป็นสีชมพูสวย ไว้กินแกล้มกับอาหารหลายชนิด นอกจากขิงจะช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แล้วยังเป็นยาแก้ไอขับเสมหะ และป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ดี
นอกจากยางมะละกอและเอนไซม์ในสับปะรดจะย่อยเนื้อให้เปื่อยนุ่มแล้ว ในเหง้าขิงก็มีเอนไซม์ไม่น้อยกว่า 2 ชนิดที่ย่อยเนื้อได้ ซึ่งก็เป็นภูมิปัญญาไทยอีกเช่นกัน เพราะแม่ครัวสมัยก่อน ฝานขิงสดใส่ลงในแกงกะหรี่เนื้อเพื่อให้เนื้อเปื่อย _________________ เมืองฟ้าแดด สูงยาง โปงลาง เลิศล้ำ |
|
Takaisin alkuun |
|
 |
|
|
Et voi kirjoittaa uusia viestejä tässä foorumissa Et voi vastata viesteihin tässä foorumissa Et voi muokata viestejäsi tässä foorumissa Et voi poistaa viestejäsi tässä foorumissa Et voi äänestää tässä foorumissa Et voi liittää tiedostoja tässä foorumissa Et voi ladata tiedostoja tässä foorumissa
|